Get Out (2017) หนังดีระดับสิบล้านดาว ไม่ใช่หนังผี ไม่ใช่หนังสยองขวัญ ขอจัดว่าเป็นเป็นหนังแนว survival และไม่ใช่ survival ธรรมดา แต่เป็นการ survive ในระดับตัวตน [หมายเหตุ: จะพยายามรีวิวอย่างกว้างๆ เพื่อไม่ให้สปอยล์เนื้อเรื่อง]
Get Out พูดถึงการเหยียดสีผิวและสิทธิในเนื้อตัวร่างกายอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและดุเด็ดเผ็ชมันยิ่งนัก
ทำไมการไม่เหยียด(ผิว) จึงสำคัญ? ช่วงเริ่มต้นหนังแสดงให้เห็นว่าการเหยียดทำให้เกิด prejudice แล้วพาเราไปถึงจุดที่ prejudice ทำให้เพื่อนมนุษย์เพิกเฉยต่อชีวิตชีวิตหนึ่ง และสุดท้ายฮีโร่ของเรื่องนี้ก็คือคนที่ไม่เพิกเฉยนั่นเอง
ทำไมสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของตัวเองจึงสำคัญ? หนังทำให้เห็นว่า ถ้าคนคนนึงสูญเสียสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของตัวเองโดยสิ้นเชิง จะเป็นอย่างไร
โดยหนังเรื่องนี้ให้ความหมายว่า “สิทธิในเนื้อตัวร่างกายของตัวเอง = ตัวตน(inner self) = ชีวิต”
สำหรับบางคน คุณค่าของชีวิตไม่ได้จำกัดอยู่แค่การมีชีวิตอยู่ แต่เป็นการแสวงหาบางสิ่งเพื่อเติมเต็มตัวเอง จนมันล้ำเส้นไปถึงการเอาตัวตนของตัวเองไปใส่ในร่างกายของคนอื่น (คือไม่ได้อยากเป็นเขา แต่อยากได้ version of me ที่สมบูรณ์ขึ้น แข็งแกร่งขึ้น)
ในขณะที่บางคน ต้องต่อสู้เพื่อ survive ซึ่งไม่ได้หมายถึงการแค่มีร่างมีลมหายใจ แต่คือการรักษาตัวตนของตัวเองไว้ รักษาสิทธิในร่างกายของตัวเองไว้ ไม่ให้ถูกขโมยไป เพราะถ้าสูญเสียตัวตน สูญเสียความเป็นตัวเอง ชีวิตก็หมดความหมาย
ดังนั้น การมีชีวิตจึงไม่ได้หมายถึงการมีร่างกายมีลมหายใจ แต่คือการมีตัวตน ถ้าเราเป็นตัวเองไม่ได้ ชีวิตก็ไร้ค่า คือมีชีวิตก็เหมือนไม่มี มีชีวิตอย่างคนที่ตายไปแล้ว
สุดท้าย มองย้อนกลับมาที่โลกที่เราอยู่ มีการเหยียดผิว, ชนชั้น, เชื้อชาติ, ศาสนา ฯลฯ ซึ่งคนกลุ่มที่ถูกเหยียดต้อง survive ในระดับตัวตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขารู้สึกว่าตัวตนกำลังถูกคุกคาม และกำลังจะสูญเสียตัวตนไป เขาจึงจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อรักษาตัวตนหรือชีวิตของตัวเองเอาไว้
ขอบคุณภาพจาก IMDB.com